Wellcome To web Site

บทที่ 9

Chapter 9 : E-Government


CHAPTER 9 : E-GOVERNMENT

ความหมาย E-Government
E-government หรือรัฐอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วยหลักการที่เป็นแนวทาง 4 ประการคือ
     1.สร้างบริการตามความต้องการของประชาชน
     2.ทําให้รัฐและการบริการของรัฐเข้าถึงได้มากขึ้น
     3.เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยทั่วกัน
     4.มีการใช้สารสนเทศที่ดีกวาเดิม          
          E-Government เป็นวิธีการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลงานภาครัฐและปรับปรุงการบริการแก่ประชาชนและการบริการด้านข้อมูลเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้นการให้บริการของรัฐมุ่งเป้าไปที่กลุ่ม 3 กลุ่ม คือ  - ประชาชน  - ภาคธุรกิจ  - ข้าราชการ

          หากเทียบกับ E-Commerce แล้ว E-Government คือ G-to-G1 Transaction มีลักษณะเป็น intranet มีระบบความปลอดภัย เพื่อทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานของรัฐขณะที่ E-Service เทียบได้กับ B-to-G2 และ G-to-C3 Transaction ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อในการให้บริการ โดยภาคธุรกิจกับประชาชนคือผู้รับบริการ หลัก E-Government จะเป็นแบบ G2G , G2B และ G2Cระบบต้องมีความมั่นคงปลอดภัยเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ และประชาชนอุ่นใจในการรับบริการและชำระเงินค่าบริการ ธุรกิจก็สามารถดำเนินการค้าขายกับหน่วยงานของรัฐด้วยความราบรื่นได้



B2C คือภาคธุรกิจสู่ผู้บริโภค (Business to Consumer)

B2B คือภาคธุรกิจสู่ภาคธุรกิจ (Business to Business)

G2G คือภาครัฐสู่ภาครัฐด้วยกัน (Government to Government) เป็นรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปมากของหน่วยราชการ ที่การติดต่อสื่อสารระหว่างกันโดยกระดาษและลายเซ็นในระบบราชการเดิม จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยการใช้ระบบเครือข่ายสารสนเทศและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเป็นทางการเพื่อเพิ่มความเร็วในการดำเนินการ ลดระยะเวลาในการส่งเอกสารและข้อมูลระหว่างกัน

G2C คือภาครัฐสู่ประชาชน (Government to Citizen) เป็นการให้บริการของรัฐสู่ประชาชนโดยตรง โดยการบริการดังกล่าวประชาชนจะสามารถดำเนินธุรกรรมผ่านเครือข่ายสารสนเทศของรัฐ เช่น การชำระภาษี การจดทะเบียน การจ่ายค่าปรับ เป็นต้น

G2B คือภาครัฐสู่ภาคธุรกิจ (Government to Business) เป็นการให้บริการของภาคธุรกิจเอกชน โดยที่รัฐจะอำนวยความสะดวกต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมให้สามารถแข่งขันกันโดยความเร็วสูง มีประสิทธิภาพและข้อมูลที่ถูกต้องอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส

G2E คือภาครัฐสู่ภาคข้าราชการและพนักงานของรัฐ (Government to Employee) เป็นการให้บริการที่จำเป็นของพนักงานของรัฐกับรัฐบาล โดยจะสร้างระบบเพื่อช่วยให้เกิดเครื่องมือที่จำเป็นในการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิต เช่น ระบบสวัสดิการ ระบบที่ปรึกษาทางกฏหมายและข้อบังคับในการปฏิบัติราชการ ระบบการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ

การจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล
      เป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหหน่วยรัฐบาล บนระบบอินเตอร์เน็ตด้วยกิจกรรม
        - การตกลงราคา
        - การประกวดราคา
        - การจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ
        - การประมูล
   
         วัตถุประสงค์การจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (E-Procurement)
   - เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
   - เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีไม่ว่าจะเป็นกระบวนการตรวจสอบ และการเปิดเผยต่อสาธารณะชน
   - เพื่อประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายจากที่เดิมที่มักจะจัดจ้างในราคาที่ค่อนข้างสูง
     
1.ระบบ E-Tending ระบบการยื่นประมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง     กระบวนการสลับซับซ้อน

2.ระบบ E-Purchasing ระบบจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งออกเป็น 2 ระบบย่อย
      - ระบบ E-Shopping ระบบการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่มีมูลค่าไม่สูง กระบวนการสลับซับซ้อนไม่มาก  การลงทุนเพื่อจัดทำระบบ E-Shopping จะมีความคุ้มทุนก็ต่อเมื่อมีความถี่ในการซื้อสินค้าบ่อยครั้ง
      - ระบบ E-Auction เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างและบริการที่มีมูลค่าสูงหรือประมาณมาก และมีกระบวนการดำเนินงานที่ไม่สลับซับซ้อนมากนัก


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น